วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2557

แนะนำซีรี่ย์ญี่ปุ่น คินดะอิจิ โคสุเกะ VS อาเคจิ โคโกโร่ (ภาค ยามะพี แสดง)



คาดว่าคอการ์ตูนญี่ปุ่น แนวสืบสวนสอบสวน น่าจะเคยได้ยินชื่อ “คินดะอิจิ ฮาจิเมะ” กันมาบ้าง เพราะชื่อที่ว่านั้น มาจากการ์ตูนเรื่องดัง ที่ได้รับการตีพิมพ์ในประเทศไทย ภายใต้ชื่อเรื่องว่า “คินดะอิจิ กับคดีฆาตกรรมปริศนา” ที่กล่าวถึงนักสืบหนุ่ม ชั้นมัธยมปลาย ที่บอกว่าตัวเองเป็นหลานของนักสืบชื่อดังในอดีต และมักจะมีคำพูดติดปากว่า “ขอเอาชื่อคุณปู่เป็นเดิมพัน” ในทุกครั้งเมื่อสามารถไขคดีได้ทะลุปรุโปร่งแล้ว จนทำให้นักอ่านทุกคน อยากรู้ถึงความเก่งกาจ ของคุณปู่ที่เปรียบเสมือนผู้มอบ DNA ความสามารถในการสืบคดีให้ “คินดะอิจิ ฮาจิเมะ” ที่เป็นรุ่นหลานอยู่ไม่น้อย
เนื่องจากคินดะอิจิ กับคดีฆาตกรรมปริศนา ได้รับความนิยมมาก เพราะนอกจากจะถูกตีพิมพ์ในรูปแบบของหนังสือการ์ตูนแล้ว ยังมีที่เป็นอะนิเมะ และภาคคนแสดง ซึ่งมักจะได้รับความสนใจจากแฟนๆ ทุกครั้งที่มีข่าวว่าจะถ่ายทำตอนใหม่  เพราะนักแสดงนำแต่ละคน ที่มารับบท “คินดะอิจิ ฮาจิเมะ” นั้น ต่างก็เป็นไอดอล ขวัญใจสาวๆ ในยุคนั้นอย่าง “โดโมโตะ สึโยชิ” (Domoto Tsuyoshi) “คาเมนาชิ คาสึยะ” (Kamenashi Kazuya) และล่าสุด กับ “ยามาดะ เรียวสุเกะ” (Yamada Ryosuke) ที่สำคัญคือการมีส่วนร่วมของศิลปิน สัญชาติไทย อย่าง “นิชคุณ หรเวชกุล” จากวง 2PM ที่ได้รับบทบาทเป็นหนึ่งในตัวละคร ในละคร Kindaichi Case Files: The Prison Cram School Murder Case หรือ “คินดะอิจิ กับคดีฆาตกรรมปริศนา ตอน คดีฆาตกรรมในโรงเรียนกวดวิชา โกะกุมง” ตามชื่อในหนังสือการ์ตูน ส่วนคนที่กำลังสงสัย ว่าคุณปู่ของ “คินดะอิจิ” จะเป็นอย่างไร ก็คงต้องลองดู ละครตอนพิเศษ ที่ฉายทางช่อง Fuji TV ที่ว่าถึงเรื่องของ “คินดะอิจิ โคสุเกะ” รุ่นปู่ ในชื่อเรื่องว่า “Kindaichi Kosuke VS Akechi Kogoro” หรือ “คินดะอิจิ โคสุเกะ VS อาเคจิ โคโกโร่” นี่ล่ะ

9529-004
9529-005

“คินดะอิจิ โคสุเกะ” เป็นตัวละคร ในนิยายแนวสืบสวนสอบสวน จากฝีมือของปรมาจารย์ด้านนิยายสืบสวนของญี่ปุ่น อาจารย์ “โยโคมิโซะ เซชิ” ที่กำหนดคาแรกเตอร์ให้ตัว ละคร “คินดะอิจิ โคสุเกะ” เป็นผู้ชายรูปร่างปานกลาง มีชุดประจำตัวคือ กางเกงฮามะยับยู่ยี่ พร้อมกับทรงผมรังนกกระจอก และมักจะใช้มือเกาศีรษะตัวเองจนยุ่งเหยิงทุกครั้ง เมื่อต้องใช้ความคิด โดยมีฉากหลังเป็นสภาพบ้านเมืองของญี่ปุ่น ในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่  2 “คินดะอิจิ โคสุเกะ” เป็นนักสืบที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่ง ในสมัยนั้น เพราะได้โชว์ความสามารถในการไขคดีซับซ้อน ซ่อนเงื่อน และแปลกพิสดาร ให้กระจ่างได้ทุกครั้ง โดยที่คดีต่างๆ เหล่านั้น ต่างก็มีความลึกลับ น่ากลัว สยดสยอง และความวิปริต ผสมผสานอยู่ด้วยเสมอ

9529-008

ในส่วนของ “Kindaichi Kosuke VS Akechi Kogoro” ที่ได้ดาราหนุ่มขวัญใจสาวๆ อย่าง “ยามาชิตะ โทโมฮิสะ” หรือ “ยามะพี” มารับบทนักสืบ “คินดะอิจิ โคสุเกะ” ในวัยหนุ่ม ซึ่งคนที่เคยอ่านนิยายเรื่องนี้มาก่อน อาจรู้สึกว่า “ยามะพี” ดูหล่อเกินไปหน่อย ที่จะสวมบทบาทของ นักสืบที่ไม่ค่อยสนใจในรูปลักษณ์ของตัวเอง แต่เมื่อเรื่องราวของภาคนี้ จะกล่าวถึง “คินดะอิจิ โคสุเกะ” ในวัยหนุ่ม ก็คงจะไม่ผิดอะไร ที่นักสืบไร้เสน่ห์ดึงดูดใจในนิยาย จะกลายเป็นผู้ชายหน้าตาดีในละครโทรทัศน์ แต่ยังไงซะ การที่ได้ชม “ยามะพี” รับบทนำในครั้งนี้ ก็ดูเพลิดเพลินและสบายตา กว่าการดูภาพยนตร์ภาคก่อนหน้า ที่เคยเอามาฉายที่ไทยแล้วเมื่อหลายปีก่อน ส่วนชายหนุ่มอีกคน ที่รับบทเป็นนักสืบ ผู่เก่งกาจ และประสบความสำเร็จในฐานะนักสืบผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง “อาเคจิ โคโกโร่” ก็ได้ นักแสดงมากความสามารถ “ฮิเดอากิ อิโต” มารับหน้าที่นี้ ส่วนสาวสวยที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องอีกคน ก็คือ “ทาเคอิ เอมิ” ดาราสาวดาวรุ่ง ในบทของ “ฮัทสึเนะ” สาวสวยในปีโชวะที่ 12 ที่ทำให้นักสืบหนุ่มถึงกับตกหลุมรัก ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ

9529-009

เรื่องย่อ“Kindaichi Kosuke VS Akechi Kogoro” Special

“กันโซ” และ “ฮอนเกะ” ต่างก็เป็นร้านขายยาที่มีประวัติยาวนานกันทั้งคู่ ด้วยความที่เคยมีอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชาคนเดียวกัน แต่มีผู้สืบทอดวิชาถึง 2 คน และทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีใครยอมใคร จึงออกมาตั้งร้านประจันหน้ากัน กลายเป็นคู่แข่งทางการค้า และไม่ลงรอยกันตั้งแต่นั้น แต่เรื่องราวเกิดบานปลายขึ้น เมื่อ “คิอิจิโร่” ลูกชายคนโต ผู้สืบทอดตำรับยาของบ้าน “ฮอนเกะ” ได้บุกเข้าไปในบ้าน และสาดน้ำกรดใส่ “โอซาฮิโกะ” เจ้าบ้านผู้สืบทอดของฝั่ง “กันโซ” แล้วก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย “คินดะอิจิ โคสุเกะ” (ยามาชิตะ โทโมฮิสะ) นักสืบหนุ่มมือใหม่ ที่เริ่มจะมีชื่อเสียงขึ้นมา จากการไขคดี ก็ได้รับการว่าจ้าง จากสาวสวยน้องสาวของ “คิอิจิโร่” ที่ชื่อว่า “ฮัทสึเนะ” (ทาเคอิ เอมิ) ให้มาช่วยตามจับคนร้ายที่สะกดรอยตามเธอ แต่แล้วเรื่องราวก็ไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น เมื่อเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นอีกรายแล้วรายเล่า และทั้งหมดนั้น ก็ยังเกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่ซับซ้อนของทั้ง 2 ตระกูลอย่างลึกซึ้ง ในขณะเดียวกัน อาเคจิ โคโกโร่ (ฮิเดอากิ อิโต) นักสืบผู้โด่งดัง และประสบความสำเร็จ ก็ได้อ่านเจอเรื่องราวของ “คินดะอิจิ โคสุเกะ” ในหนังสือพิมพ์ และเกิดความสนใจในตัวเขาขึ้นมา จึงได้ปลอมตัวเป็นนักข่าว เพื่อเข้าไปสังเกตุการณ์ใกล้ๆ “คินดะอิจิ”


ขอบคุณข้อมูลจาก  :  http://www.lady108.com/9529/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99-%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4-%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B0-vs-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%88%E0%B8%B4-%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B9%88-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84-%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B5-%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B8%87/

My Hobby

                                           ดูการ์ตูน





                  http://www.youtube.com/watch?v=SNN5KwG0bhU


                                              ฟังเพลง



                  http://www.youtube.com/watch?v=hvM7IJ0wTKo







เทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิตประจําวัน

เทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิตประจําวัน

การนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยปฏิบัติงานในด้านต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิผล มีมากมายหลายด้าน ได้แก่
1. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานสำนักงาน ปัจจุบันสำนักงานได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาประยุกต์ใช้อย่างแพร่หลาย เพื่อให้งานในสำนักงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น กล่าวคือ ทำให้งานมีความสะดวกรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศที่นำมาใช้ในงานสำนักงาน ได้แก่ เครื่องพิมพ์ดีด อิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์ เครื่องถ่ายเอกสาร ผลิตภัณฑ์เหล่านี้นำไปประยุกต์ใช้กับงานสำนักงานได้หลายลักษณะ เช่น
        1.1 งานจัดเตรียมเอกสาร เป็นการใช้เครื่องประมวลผลคำหรือเครื่องประมวลผลเนื้อหา เป็นเครื่องมือในการจัดเตรียม อุปกรณ์ประกอบการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ โมเด็ม และช่องทางการสื่อสาร ระบบประมวลผลคำ แบ่งออกได้ 2 ระบบ คือ
            1.1.1 ระบบเดี่ยว (Stand – alone) เป็นระบบที่สามารถประมวลผลได้ภายในคอมพิวเตอร์ชุดเดียว หรือจะเชื่อมโยงไปยังคอมพิวเตอร์อื่น ๆ
            1.1.2 ระบบเชื่อมโยงกับข่ายการสื่อสาร เป็นระบบที่มีการเชื่อมโยงสารสนเทศซึ่งกันและกันผ่านเครือข่ายโทรคมนาคม เช่น เครือข่ายโทรศัพท์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์

        1.2 งานกระจายเอกสาร เป็นการกระจายข้อมูลสารสนเทศไปยังผู้ใช้ ณ จุดต่าง ๆ อาจกระทำโดยการเชื่อมโยงผ่านเครือข่ายโทรคมนาคม อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศที่สามารถปฏิบัติงานกระจายเอกสารได้โดยอัตโนมัติ ได้แก่ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

        1.3 งานจัดเก็บและค้นคืนเอกสาร สามารถทำได้ทั้งระบบออฟไลน์และระบบออนไลน์ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือผ่านเครือข่ายโทคมนาคมรูปแบบอื่น เช่นระบบฐานข้อมูลเป็นต้น

  
       
1.4 งานจัดเตรียมสารสนเทศในลักษณะภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ดำเนินงานดังกล่าว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องสแกนเนอร์ โทรทัศน์
        1.5 งานสื่อสารสนเทศด้วยเสียง เช่น โทรศัพท์ การประชุมทางโทรศัพท์
        1.6 งานสื่อสารสนเทศด้วยภาพและเสียง เช่น ระบบมัลติมีเดีย ระบบการประชุมทางไกลด้วยภาพและเสียง เป็นต้น

2. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานอุตสาหกรรม โรงงานอุตสาหกรรมนำเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการเข้ามาช่วยในการจัดการระบบงานการผลิต การสั่งซื้อ การพัสดุการเงิน บุคลากร และงานด้านอื่น ๆ ในโรงงาน
3. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานการเงินและการพาณิชย์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในรูปแบบของเครื่องเบิกถอนเงินอัตโนมัติ เพื่ออำนวยความสะดวกในการฝาก ถอน โอนเงิน และนำคอมพิวเตอร์ระบบออนไลน์และออฟไลน์เข้ามาช่วยในการทำงานประจำวันของธนาคารด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลของธนาคารต่างสาขา ต่างธนาคาร ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเบิก ถอน โอนเงินชำระเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้
4. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานด้านการสื่อสาร ได้แก่ การบริการโทรศัพท์วิทยุ โทรทัศน์ เคเบิลทีวี การค้นคืนสารสนเทศระบบออนไลน์ ดาวเทียม และโครงข่ายบริการสื่อสารร่วมระบบดิจิตอล

5. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานด้านสาธารณสุข เช่น
        5.1 ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล ถูกนำมาใช้ในระบบงานเวชระเบียน ระบบข้อมูลยาการรักษาพยาบาล การคิดเงิน รวมทั้งการส่งเวชระเบียนผ่านระบบโทรคมนาคมที่อาจเรียกว่า โทรเวชได้
        5.2 ระบบสาธารณสุข เทคโนโลยีสารสนเทศถูกนำมาใช้ในการดูแลรักษาโรคระบาดในท้องถิ่น เช่น เมื่อมีผู้ป่วยโรคอหิวาตกโรคในหมู่บ้าน ซึ่งอาจกลายเป็นโรคระบาดได้
        5.3 ระบบผู้เชี่ยวชาญ เป็นระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการวินิจฉัยโรค เช่น ระบบ Mycinของมหาวิทยาลัยสแดนฟอร์ด โดยเริ่มมาใช้ในการวินิจฉัยโรคพืชและโรคสัตว์ ที่ใช้หลักการเก็บข้อมูลต่าง ๆ ไว้โดยละเอียดแล้วใช้หลักปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยวิเคราะห์ เป็นแนวคิดในการทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้เหมือนมนุษย์


6. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับงานด้านการฝึกอบรมการศึกษา ดังนี้
        6.1 การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI) เป็นการนำเอาคำอธิบายบทเรียนมาบรรจุไว้ในคอมพิวเตอร์ แล้วนำบทเรียนนั้นมาแสดงแก่ผู้เรียน เมื่อผู้เรียนอ่านคำอธิบายเหล่านั้น คอมพิวเตอร์จะมีส่วนที่ใช้ทดสอบความเข้าใจของผู้เรียนด้วยว่าถูกต้องหรือไม่ หากเข้าใจไม่ถูกต้องคอมพิวเตอร์จะทำการอธิบายเนื้อหาเพิ่มเติมให้เข้าใจมากขึ้น แล้วถามซ้ำอีก
        6.2 การศึกษาทางไกล เทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ในการจัดการศึกษาทางไกลมีหลายแบบตั้งแต่แบบง่าย ๆ เช่น การเรียนการสอนผ่านสื่อวิทยุ โทรทัศน์ ออกอากาศให้ผู้เรียนศึกษาเอง ตามเวลาที่ออกอากาศ ไปจนถึงใช้ระบบแพร่ภาพการสอนผ่านดาวเทียม หรือการประยุกต์ใช้ระบบประชุมทางไกล โดยผู้สอนและผู้เรียนสามารถสื่อสารถึงกันได้ทันที่ เพื่อสอบถามข้อสงสัยหรืออธิบายคำสอน เพิ่มเติม
        6.3 เครือข่ายการศึกษา เป็นการจัดทำเครือข่ายการศึกษาเพื่อให้ครูอาจารย์และนักศึกษามีโอกาสใช้เครือข่ายเพื่อแสวงหาความรู้ที่มีอยู่มากมายในโลก และใช้บริการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ทาง การศึกษา เช่น บริการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Mail : E-mail) การเผยแพร่และค้นหา ข้อมูลในระบบเวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web)

        6.4 การใช้งานในห้องสมุด มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในการดำเนินงานโดยมีเครือข่ายต่าง ๆ ที่ให้การส่งเสริมสนับสนุนในการให้บริการห้องสมุด การนำเทคโนโลยี
สารสนเทศมาใช้ในห้องสมุดให้ความสะดวกแก่ผู้ใช้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบริการยืม คืน การค้นหาหนังสือ วารสาร สิ่งพิมพ์ หรือการค้นหาข้อมูลที่ต้องการทำได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมาก
        6.5 การใช้งานในห้องปฏิบัติการ มีการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการทำงานในห้องปฏิบัติการร่วมกับอุปกรณ์เครื่องมืออื่น ๆ เช่น การจำลองแบบ การออกแบบวงจรไฟฟ้า การ ควบคุม การทดลอง
        6.6 การใช้ในงานประจำและงานบริหาร เช่น การจัดทำทะเบียนประวัติของนักเรียน นักศึกษา การเลือกวิชาเรียน การลงทะเบียนเรียน การแสดงผลการเรียน การแนะแนวอาชีพ การแนะแนวการศึกษาต่อ การเก็บข้อมูลผู้ปกครองหรือข้อมูลครู ซึ่งทำให้ครูอาจารย์สามารถติดตามและดูแล นักเรียนได้ใกล้ชิดมากขึ้น รวมทั้งครูอาจารย์สามารถพัฒนาตนเองได้สูงขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก :https://sites.google.com/site/pnru261/tecnology-for-life-1